MBKเปิดแผนรุกอสังหาฯทุกตลาด - The Agent ซื้อ ขาย เช่า คอนโดติดรถไฟฟ้า

MBKเปิดแผนรุกอสังหาฯทุกตลาด

MBKเปิดแผนรุกอสังหาฯทุกตลาด

16 พฤษภาคม 2556

Share

Source - เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ (Th)

Monday, May 13, 2013  06:41

 

 

          "เอ็มบีเค"รุกธุรกิจอสังหาฯ ครั้งใหม่ชูแบรนด์ เอ็มบีเค เรียลเอสเตท พร้อมส่งโครงการแรกคอนโดฯ ควินน์ ชิมลางตลาดกรุงเทพฯ ได้รับการตอบรับน่าพอใจ เดือนเดียวยอดขายกว่า 30% เตรียมลงทุนโครงการใหม่ๆ อีก 5-6 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดฯ และขายที่ดินเปล่า

          หัชพงศ์  โภคัย นายหัชพงศ์ โภคัย กรรมการผู้จัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็มบีเค จำกัด(มหาชน) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ที่ผ่านมากลุ่มเอ็มบีเคดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น ศูนย์การค้า ข้าวถุง โรงแรม สนามกอล์ฟ และอสังหาริมทรัพย์ แต่ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือธุรกิจศูนย์การค้า อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปจะหันมารุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นภายใต้แบรนด์ เอ็มบีเค เรียลเอสเตท จากเดิมเคยมีแบรนด์ แปลน เอสทเตท ทำโครงการบ้านสวนพุทธมณฑล แต่หยุดไปหลังเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ควินน์ บนถนนรัชดาภิเษก มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกที่เปิดตลาดกรุงเทพฯ

          "เดิมเอ็มบีเคเน้นตลาดอสังหาฯที่ภูเก็ตเป็นหลักตั้งแต่ปี 2545 ต่อมาค่อยกลับมาทำศูนย์การค้าเดอะไนน์ ที่พระราม 9 และสนามกอล์ฟ ริเวอร์เดล ที่ปทุมธานี พอมาช่วงนี้ธุรกิจอสังหาฯเติบโตมาก ประกอบกับบริษัทมีที่ดินที่ย่านรัชดา ซึ่งเหมาะที่จะลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมจึงตัดสินใจทำเป็นโครงการแรก"

          สำหรับ ควินน์ เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคารสูง 25 ชั้น และ 32 ชั้นรวม 729 ยูนิต แบ่งเป็นห้องขนาดเล็ก จำนวน 45% ขนาดกลาง 40% และขนาดใหญ่ 2 ห้องนอน 15% ตั้งแต่ขนาด 35 ตร.ม.จนถึง 65 ตร.ม. โดยราคาเริ่มต้นช่วงพรีเซล 79,999 บาทต่อตร.ม. หรือราคา 2.7 ล้านบาทต่อยูนิต หลังเปิดขายประมาณ 1 เดือนมียอดจองกว่า 30% และเร็วๆนี้จะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 3-5%

          โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่แยกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ละตึก ขณะที่บางโครงการมีหลายตึกแต่ใช้สระว่ายน้ำรวมกัน ซึ่งไม่สะดวกต่อผู้อยู่อาศัย และเตรียมติดต่อซูเปอร์มาร์เก็ต แม็กซ์แวลู และร้านแมคโดนัลด์ มาเปิดที่อาคารด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารธนชาตเช่าอยู่

          "เราอยากจะผลักดันแบรนด์เอ็มบีเค เรียลเอสเตทให้ติดตลาด ดังนั้นจึงทุ่มให้กับโครงการแรกอย่างอย่างเต็มที่ตั้งแต่เลือกทำเลที่ดีมีศักยภาพคือย่านรัชดาภิเษก การคมนาคมสะดวกเพราะพื้นที่โครงการอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และมั่นใจสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าตามเวลาคือในปี 2558 เพราะโครงการของเราได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ โดยขณะนี้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว"

          นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่แยกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ละตึก ขณะที่บางโครงการมีหลายตึกแต่ใช้สระว่ายน้ำรวมกัน ซึ่งไม่สะดวกต่อผู้อยู่อาศัย และเตรียมติดต่อซูเปอร์มาร์เก็ต แม็กซ์แวลู และร้านแมคโดนัลด์ มาเปิดที่อาคารด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารธนชาตเช่าอยู่

          นายหัชพงศ์กล่าวถึงการลงทุนโครงการใหม่ๆ ว่า ในกรุงเทพฯกำลังศึกษา 2 โครงการ เป็นโครงการคอนโดฯ ในพื้นที่ติดกับศูนย์การค้าเดอะไนน์ โดยจะสร้างคอนโดฯไลว์ไรซ์ จำนวน 400 ห้อง อีกโครงการเป็นการขายที่ดินเปล่ารอบสนามกอล์ฟริเวอร์เดล ที่ปทุมธานี จำนวน 58 แปลง ราคาเฉลี่ย 4.5-5 หมื่นบาทต่อ ตร.ว. พร้อมกับกำลังศึกษาจะสร้างบ้านเดี่ยวหลังละ 5-10 ล้านบาท ซึ่งที่นี่บริษัทมีที่ดินประมาณ 260 ไร่ ส่วนที่ภูเก็ต พัฒนาที่ดินโดยรอบสนามกอล์ฟเรดเมาเท่น โครงการสบาย 2 ขายไปแล้วประมาณ 40% เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ประมาณ 70 ยูนิต ส่วนโครงการสบาย 1 ขายไปแล้ว 90% นอกจากนี้ยังมีโครงการอินดี้ 1 โครงการบ้านเดี่ยวซึ่งขายหมดแล้ว กำลังจะเปิดโครงการอินดี้ 2

          "ตอนนี้ตลาดอสังหาฯที่ภูเก็ตแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เพราะมีบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ๆ จากส่วนกลางลงไปค่อนข้างมาก เช่น แสนสิริ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และพฤกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นสร้างคอนโดฯ

          แต่ไม่กระทบต่อธุรกิจของเราเพราะเอ็มบีเคเน้นบ้านแนวราบ ปัจจุบันตลาดภูเก็ตบ้านราคาระดับ 2-5 ล้านบาทยังพอขายได้ แต่ถ้าบ้านราคาแพงที่จับลูกค้าต่างชาตินั้นขายค่อนข้างยาก เพราะกำลังซื้อฝรั่งต่างชาติลดลง ยิ่งบ้านราคา 10 ล้านบาท ไม่ติดทะเล ยิ่งขายยาก"

          สำหรับปีนี้บริษัทมีแบ็กล็อกประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือประมาณ 50% ของยอดขายโครงการควินน์ และ ภูเก็ตอีก 100 ล้านบาท ส่วนรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท แต่ในปี 2558 รายได้คาดว่ารายได้จะเพิ่มเป็น 2,600 ล้านบาท โดยมาจากการโอนของลูกค้าโครงการควินน์

         

Source - เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ (Th)

Monday, May 13, 2013  06:41

 

 

          "เอ็มบีเค"รุกธุรกิจอสังหาฯ ครั้งใหม่ชูแบรนด์ เอ็มบีเค เรียลเอสเตท พร้อมส่งโครงการแรกคอนโดฯ ควินน์ ชิมลางตลาดกรุงเทพฯ ได้รับการตอบรับน่าพอใจ เดือนเดียวยอดขายกว่า 30% เตรียมลงทุนโครงการใหม่ๆ อีก 5-6 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดฯ และขายที่ดินเปล่า

          หัชพงศ์  โภคัย นายหัชพงศ์ โภคัย กรรมการผู้จัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็มบีเค จำกัด(มหาชน) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ที่ผ่านมากลุ่มเอ็มบีเคดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น ศูนย์การค้า ข้าวถุง โรงแรม สนามกอล์ฟ และอสังหาริมทรัพย์ แต่ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือธุรกิจศูนย์การค้า อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปจะหันมารุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นภายใต้แบรนด์ เอ็มบีเค เรียลเอสเตท จากเดิมเคยมีแบรนด์ แปลน เอสทเตท ทำโครงการบ้านสวนพุทธมณฑล แต่หยุดไปหลังเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ควินน์ บนถนนรัชดาภิเษก มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกที่เปิดตลาดกรุงเทพฯ

          "เดิมเอ็มบีเคเน้นตลาดอสังหาฯที่ภูเก็ตเป็นหลักตั้งแต่ปี 2545 ต่อมาค่อยกลับมาทำศูนย์การค้าเดอะไนน์ ที่พระราม 9 และสนามกอล์ฟ ริเวอร์เดล ที่ปทุมธานี พอมาช่วงนี้ธุรกิจอสังหาฯเติบโตมาก ประกอบกับบริษัทมีที่ดินที่ย่านรัชดา ซึ่งเหมาะที่จะลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมจึงตัดสินใจทำเป็นโครงการแรก"

          สำหรับ ควินน์ เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคารสูง 25 ชั้น และ 32 ชั้นรวม 729 ยูนิต แบ่งเป็นห้องขนาดเล็ก จำนวน 45% ขนาดกลาง 40% และขนาดใหญ่ 2 ห้องนอน 15% ตั้งแต่ขนาด 35 ตร.ม.จนถึง 65 ตร.ม. โดยราคาเริ่มต้นช่วงพรีเซล 79,999 บาทต่อตร.ม. หรือราคา 2.7 ล้านบาทต่อยูนิต หลังเปิดขายประมาณ 1 เดือนมียอดจองกว่า 30% และเร็วๆนี้จะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 3-5%

          โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่แยกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ละตึก ขณะที่บางโครงการมีหลายตึกแต่ใช้สระว่ายน้ำรวมกัน ซึ่งไม่สะดวกต่อผู้อยู่อาศัย และเตรียมติดต่อซูเปอร์มาร์เก็ต แม็กซ์แวลู และร้านแมคโดนัลด์ มาเปิดที่อาคารด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารธนชาตเช่าอยู่

          "เราอยากจะผลักดันแบรนด์เอ็มบีเค เรียลเอสเตทให้ติดตลาด ดังนั้นจึงทุ่มให้กับโครงการแรกอย่างอย่างเต็มที่ตั้งแต่เลือกทำเลที่ดีมีศักยภาพคือย่านรัชดาภิเษก การคมนาคมสะดวกเพราะพื้นที่โครงการอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และมั่นใจสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าตามเวลาคือในปี 2558 เพราะโครงการของเราได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ โดยขณะนี้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว"

          นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่แยกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ละตึก ขณะที่บางโครงการมีหลายตึกแต่ใช้สระว่ายน้ำรวมกัน ซึ่งไม่สะดวกต่อผู้อยู่อาศัย และเตรียมติดต่อซูเปอร์มาร์เก็ต แม็กซ์แวลู และร้านแมคโดนัลด์ มาเปิดที่อาคารด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารธนชาตเช่าอยู่

          นายหัชพงศ์กล่าวถึงการลงทุนโครงการใหม่ๆ ว่า ในกรุงเทพฯกำลังศึกษา 2 โครงการ เป็นโครงการคอนโดฯ ในพื้นที่ติดกับศูนย์การค้าเดอะไนน์ โดยจะสร้างคอนโดฯไลว์ไรซ์ จำนวน 400 ห้อง อีกโครงการเป็นการขายที่ดินเปล่ารอบสนามกอล์ฟริเวอร์เดล ที่ปทุมธานี จำนวน 58 แปลง ราคาเฉลี่ย 4.5-5 หมื่นบาทต่อ ตร.ว. พร้อมกับกำลังศึกษาจะสร้างบ้านเดี่ยวหลังละ 5-10 ล้านบาท ซึ่งที่นี่บริษัทมีที่ดินประมาณ 260 ไร่ ส่วนที่ภูเก็ต พัฒนาที่ดินโดยรอบสนามกอล์ฟเรดเมาเท่น โครงการสบาย 2 ขายไปแล้วประมาณ 40% เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ประมาณ 70 ยูนิต ส่วนโครงการสบาย 1 ขายไปแล้ว 90% นอกจากนี้ยังมีโครงการอินดี้ 1 โครงการบ้านเดี่ยวซึ่งขายหมดแล้ว กำลังจะเปิดโครงการอินดี้ 2

          "ตอนนี้ตลาดอสังหาฯที่ภูเก็ตแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เพราะมีบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ๆ จากส่วนกลางลงไปค่อนข้างมาก เช่น แสนสิริ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และพฤกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นสร้างคอนโดฯ

          แต่ไม่กระทบต่อธุรกิจของเราเพราะเอ็มบีเคเน้นบ้านแนวราบ ปัจจุบันตลาดภูเก็ตบ้านราคาระดับ 2-5 ล้านบาทยังพอขายได้ แต่ถ้าบ้านราคาแพงที่จับลูกค้าต่างชาตินั้นขายค่อนข้างยาก เพราะกำลังซื้อฝรั่งต่างชาติลดลง ยิ่งบ้านราคา 10 ล้านบาท ไม่ติดทะเล ยิ่งขายยาก"

          สำหรับปีนี้บริษัทมีแบ็กล็อกประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือประมาณ 50% ของยอดขายโครงการควินน์ และ ภูเก็ตอีก 100 ล้านบาท ส่วนรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท แต่ในปี 2558 รายได้คาดว่ารายได้จะเพิ่มเป็น 2,600 ล้านบาท โดยมาจากการโอนของลูกค้าโครงการควินน์

         

We use cookies to give you the best online experience. By using our website you agree to our use of cookies in accordance with our privacy policy.
SHOW MORE